วันอังคารที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2553

พ่อครับผมขอยืมสองร้อย

พ่อครับ...ผมขอยืมสองร้อย


"พ่อครับ ขอยืมตังค์หน่อย "
เสร็จจากงานถึงบ้านเกือบสามทุ่มเข้าไปแล้ว เขาเดินเข้าบ้านที่ดูเงียบเหงา เนื่องจาก
ภรรยาเสียชีวิตไปเมื่อปีกลาย
 ทิ้งลูกชายคนเดียวไว้กับเขาให้หาเลี้ยงลูกตามลำพังดีว่าเจ้าหนูน้อยพอจะช่วยตัวเองได้บ้าง   อาหารก็กิน อาหารปิ่นโตที่ผูกประจำ
หากินเองได้ทำให้ไม่เป็นภาระมากมายนัก เข้ามาในบ้าน
เหงื่ออาบแก้มยังไม่ทันได้พัก
ผู้เป็นพ่อเห็นหน้าลูกชายวัยซน ที่รอรับเอ่ยปาก ทัก
"
พ่อครับวันนี้ทำงานเหนื่อยมั้ยครับ "
"
เหนื่อยสิ ลูกแล้ววันนี้ทำการบ้านเสร็จ แล้วเหรอ " ผู้เป็นพ่อตอบเนือยๆ พร้อมกับ
ถามต่อด้วยความเคยชิน

"
เสร็จหมดแล้วครับ คือ ผม มีเรื่องบางอย่างอยากจะถามพ่อน่ะ พ่อว่างหรือยังครับ
"
ลูกชายตัวน้อย ถาม ต่อ''เดี๋ยวพ่อจะไปอาบน้ำ หาข้าวกินข้าวซักหน่อยแล้ว
คงจะเข้านอนวันนี้เหนื่อยเหลือเกิน
ว่าแต่แกจะถามอะไรพ่อเหรอ "
ผู้เป็นพ่อถามด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า"คือผมอยากรู้ว่า
พ่อทำงานได้ ค่าจ้างวันละเท่าไรครับ"
ลูกชายถามด้วยน้ำเสียงใสซื่อเค้าหันมามองหน้า
ลูกชาย พร้อมกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัยแล้วผู้เป็นพ่อก็ตอบไปว่า
"วันละสี่ร้อย "
"งั้นผมขอยืมตังค์พ่อสักสองร้อยได้มั้ยครับ"ลูกชายตัวน้อยเอ่ยปากด้วยสายตาวิงวอน" หา แกว่าไง นะ "  ผู้เป็นพ่อขึ้นเสียงด้วยอารมณ์  ก่อนที่จะหันมาพูดกับลูกชาย
ด้วยเสียงเข้มขึ้น
กว่าเดิม
"
นี่ฟังนะ แกคิดว่าเงินทองหาได้ง่ายๆเหรอ กว่าพ่อจะได้เงินสี่ร้อยบาทต้องทำงาน
เหนื่อยตั้งแต่เช้ายันค่ำแต่พอกลับมาถึงบ้านเจอแกรอขอยืมเงินพ่อง่ายๆ
แบบนี้นี่นะแกลองไปคิดดูให้ดี
สิว่าแกทำประโยชน์อะไรให้พ่อบ้าง
พ่อถึงจะต้องให้เงินสองร้อยนี่ให้แกยืม
"เด็กชายยืนนิ่ง มองหน้าพ่อ ไม่มีเสียง
หลุดออกจากปากแต่น้ำตาไหลซึม ลงอาบร่องแก้มทั้งสองข้างก่อนที่จะหันหลัง
เดินกลับห้องตัวเอง
อย่างซึมเซา หลังจากอาบน้ำเสร็จแวะเข้าครัวหาข้าวปลา
กินเรียบร้อย
เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ เดินไปที่ระเบียง ความรู้สึกเคร่งเครียด
ที่ได้รับมาจากงานนอกบ้านเริ่มผ่อนคลาย คิดไปถึงอดีตที่ผ่านและงานที่ทำ
มาทั้งวันแล้วก็ย้อนกลับคิดไปถึงลูกชายตัวน้อยลูกเป็นเด็กดี ไม่เคยเกเรไม่เคยเอ่ยปาก
ขอเงินเพิ่มนอกจากเงินค่าขนม ที่เขาให้ประจำวันเท่านั้น แต่วันนี้ทำไม
ถึงเอ่ยปาก
ยืมเงินเมื่อสักครู่  
เขาเหนื่อยเกินไปหรือเครียดเกินไปหรือเปล่าถึงได้ใช้อารมณ์กับลูก
ไปอย่างนั้น
เมื่อได้คิด เขาดับบุหรี่แล้วเดินไปที่ห้องลูกชายไฟในห้องนอนดับ
แล้ว
เมื่อเปิดประตูเข้าไปเอื้อมมือเปิดไฟในห้อง หนูน้อยนอนตะแคงหน้าตา
ยังคงลืมตา
จ้องมองมาที่ประตูแก้มที่แนบกับหมอน ชุ่มด้วยน้ำตา พร้อมเสียง
สะอื้นเบา ๆ อยู่คนเดียว
เขาเดินไปนั่งที่ขอบเตียงมือลูบผมลูกชายเบาๆพร้อมกับเอ่ยปาก
ด้วยน้ำเสียงเครือ จุกคอ
" พ่อขอโทษนะลูก เมื่อตะกี้พ่อเหนื่อยมามากเลยใช้
อารมณ์กับลูกมากไปหน่อยจริงๆตะกี้พ่อไม่ได้ถามลูกด้วยซ้ำว่า
ลูกอยากยืม
เงินพ่อไปทำไมลูกอาจจะมีเหตุจำเป็นที่จะต้องใช้เงินก็ได้
เงินแม้ว่าจะหาได้ลำบาก
 ไม่ได้ได้มาง่ายๆ แต่ถ้าลูกมีเหตุผลเพียงพอ
พ่ออาจจะให้ยืมก็ได้ เพราะว่าลูกน่ะสำคัญสำหรับพ่อเหนือสิ่งอื่นใดและพ่อรักลูกจ้ะ "

" ว่าแต่ไหนลูกลองบอกพ่อสิว่า ลูกอยากยืมเงินสองร้อย
ไปทำอะไร "
ผู้เป็นพ่อถามลูกชายที่มองหน้าพ่อนิ่งด้วยน้ำเสียงปราณีเต็มเปี่ยมด้วยความรักลูกชาย
ตัวน้อย ส่งเสียงสะอื้นจากลำคอ


"
พ่อครับ ตั้งแต่แม่ตาย ผมเห็นพ่อต้องทำงาน หนักเพื่อหาเงิน
ทุกวันจนไม่ได้พัก ไม่ได้อยู่กับผมเลย เราแทบไม่มีเวลาได้
อยู่ด้วยกัน ผมเลยค่อยๆเก็บค่าขนมของผมไว้ตลอดมา
จนถึงตอนนี้ผมเก็บได้สองร้อยบาทแล้ว แต่พอผมรู้จากพ่อว่า
พ่อทำงานได้ค่าจ้างวันล่ะสี่ร้อย ผมจึงอยากยืมพ่อเพิ่มอีก
สองร้อย
ให้เป็นสี่ร้อยเพื่อจะได้ใช้เป็นค่าจ้างให้พ่อได้พัก
ได้อยู่กับผมสักวันนึง ครับ
"
เงินทองอาจจะจำเป็นต่อการดำรงชีวิต แต่ครอบครัวยังคงต้องการความรัก ความอบอุ่น
และเวลาที่มีให้แก่กัน
อย่าห่วงงานจนลืม ครอบครัวและคนที่คุณรัก

ไม่มีความคิดเห็น: