วันอังคารที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2553

พร 4 ข้อของท่าน ว.วชิรเมธี

พร 4 ข้อ

                                                            ว.วชิรเมธี

1.   อย่าเป็นนักจับผิด 
คนที่คอยจับผิดคนอื่น แสดงว่าหลงตัวเองว่าเป็นคนดีกว่าคนอื่นไม่เห็นข้อบกพร่อง
         ของตนเอง"กิเลสฟูท่วมหัว ยังไม่รู้จักตัวอีก"   คนที่ชอบจับผิด จิตใจจะหม่นหมอง
ไม่มีโอกาส "จิตประภัสสร"  ฉะนั้น จงมองคน มองโลกในแง่ดี
"แม้ในสิ่งที่เป็นทุกข์
ถ้ามองเป็น ก็เป็นสุข"
 2.  อย่ามัวแต่คิดริษยา
"แข่งกันดี ไม่ดีสักคน ผลัดกันดี ได้ดีทุกคน" คนเราต้องมีพรหมวิหาร 4 คือ
เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
คนที่เราริษยาเป็นการส่วนตัว
มีชื่อว่า
"เจ้ากรรมนายเวร"  ถ้าเขาสุขเราจะทุกข์ ฉะนั้นเราต้อง ถอดถอนความริษยา
ออกจากใจเราเพราะไฟริษยา เป็น
"ไฟสุมขอน" (ไฟเย็น)   เราริษยา 1 คน
เราก็มีทุกข์
1 ก้อน เราสามารถถอดถอน ความริษยาออกจากใจเราโดยใช้วิธี"แผ่เมตตา" หรือ ซื้อโป่งมาแล้วเขียนชื่อคนที่เราริษยา แล้วปล่อยให้ลอยไป
3.  อย่าเสียเวลากับความหลัง
90% ของคนที่ทุกข์ เกิดจากการย้ำคิดย้ำทำ "ปล่อยไม่ลง ปลงไม่เป็น" มนุษย์ที่
สลัดความหลังไม่ออก เหมือนมนุษย์ที่เดินขึ้นเขาพร้อมแบกเครื่องเคราต่างๆ
ไว้ที่หลังขึ้นไปด้วย
ความทุกข์ที่เกิดขึ้นแล้ว จงปล่อยมันซะ "อย่าปล่อยให้คมมีด
แห่งอดีตมากรีดปัจจุบัน"

"อยู่กับปัจจุบันให้เป็น" ให้กายอยู่กับจิต จิตอยู่กับกาย คือมี "สติ" กำกับตลอดเวลา
       4. อย่าพังเพราะไม่รู้จักพอ
 
               
"ตัณหา" ที่มีปัญหา คือ ความโลภ ความอยากที่เกินพอดีเหมือนทะเลไม่เคยอิ่ม
               ด้วยน้ำไฟไม่เคยอิ่มด้วยเชื้อ
ธรรมชาติของตัณหา คือ "ยิ่งเติมยิ่งไม่เต็ม"
               ทุกอย่างต้องดูคุณค่าที่แท้ ไม่ใช่คุณค่าเทียม 
เช่น คุณค่าที่แท้ของนาฬิกาคืออะไร
               คือ ไว้ดูเวลา ไม่ใช่มีไว้ ใส่เพื่อความโก้หรู
               
คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์มือถือ คืออะไร คือไว้สื่อสาร แต่องค์ประกอบอื่นๆ ที่เสริมมา
               ไม่ใช่ คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์
เราต้องถามตัวเองว่า "เกิดมาทำไม"
               
"คุณค่าที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ตรงไหนตามหา " แก่น " ของชีวิต
               ให้เจอคำ
ว่า "พอดี" คือถ้า "พอ" แล้วจะ"ดี" รู้จัก "พอ" จะมีชีวิตอย่างมีความสุข
  
              
สัพพะทานัง ธัมมะธานัง ชินาติ 'การให้ธรรมะเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง'

ไม่มีความคิดเห็น: